NW15 崇迪佛牌：双座台模，旧藏于曼坤蓬寺佛塔，佛历2413年 NW15 พระสมเด็จ พิมพ์ฐานคู่ กรุเก่า บางขุนพรหม ปี 2413
价格：800,000 泰铢 ราคา 800,000 บาท
点击图片查看最高放大图 คลิกที่ภาพ เพื่อดูภาพกำลังขยายสูงสุด
ประวัติการสร้าง
ผู้สร้าง: พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม สร้างโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม โดยมี เสมียนตราด้วง (ต้นตระกูลธนโกเศศ) ซึ่งเป็นโยมอุปัฏฐากของวัดบางขุนพรหมในสมัยนั้น เป็นผู้ริเริ่มอาราธนาให้สร้าง
ปีที่สร้าง: สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2413 หลังจากที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) สร้างพระสมเด็จวัดระฆังเสร็จแล้ว
จุดประสงค์: เพื่อบรรจุไว้ในพระเจดีย์องค์ใหญ่ของวัดบางขุนพรหม (ในปัจจุบันคือ วัดใหม่อมตรส) เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาและเพื่อให้ผู้คนในอนาคตได้นำไปใช้เมื่อเกิดทุกข์ภัยในบ้านเมือง
ลักษณะและมวลสาร
มวลสาร: เสมียนตราด้วงได้นำปูนขาวและวัสดุต่างๆ มาเป็นส่วนผสม ขณะที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) ได้มอบ ผงวิเศษ 5 ชนิด ซึ่งเป็นผงเดียวกับที่ใช้สร้างพระสมเด็จวัดระฆัง คือ ผงอิธะเจ, ผงปถมัง, ผงตรีนิสิงเห, ผงมหาราช และผงพุทธคุณ มาผสมในเนื้อพระด้วย
จำนวนการสร้าง: มีการสันนิษฐานว่าตั้งใจจะสร้างให้ได้ 84,000 องค์เท่ากับจำนวนพระธรรมขันธ์ แต่จำนวนที่สร้างจริงคาดว่าไม่เกิน 10,000 องค์
การเปิดกรุ
การ “ตกพระ”: หลังจากบรรจุพระในเจดีย์แล้ว ในปี พ.ศ. 2425, 2436 และ 2450 ได้มีประชาชนลักลอบนำพระออกมาจากเจดีย์ด้วยวิธีการ “ตกพระ” (ใช้ลวดเกี่ยวขึ้นมา) พระที่ได้ออกมาในช่วงนี้มักจะมีคราบกรุบางๆ และถูกเรียกว่า “พระกรุเก่า”
การเปิดกรุอย่างเป็นทางการ: ในปี พ.ศ. 2500 ทางวัดได้ตัดสินใจเปิดกรุพระอย่างเป็นทางการเพื่อนำพระออกมาให้ประชาชนเช่าบูชา นำเงินมาบูรณะวัด โดยมี พล.อ. ประภาส จารุเสถียร เป็นประธานในพิธี ครั้งนี้ได้พระที่สมบูรณ์ออกมาประมาณ 2,900 องค์ และมีพระที่ชำรุดอีกจำนวนมาก
พระสมเด็จ พิมพ์ฐานคู่
หนึ่งในพิมพ์นิยม: พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม มีพิมพ์หลักที่ได้รับความนิยมทั้งหมด 9 พิมพ์ ได้แก่ พิมพ์ปรกโพธิ์, พิมพ์ใหญ่, พิมพ์ทรงเจดีย์, พิมพ์เกศบัวตูม, พิมพ์ฐานแซม, พิมพ์เส้นด้าย, พิมพ์สังฆาฏิ, พิมพ์ฐานคู่ และพิมพ์อกครุฑเศียรบาตร
ความหายาก: พิมพ์ฐานคู่จัดเป็นหนึ่งในพิมพ์ที่พบน้อยและหายาก ทำให้มีมูลค่าสูงและเป็นที่ต้องการของนักสะสมเป็นอย่างมาก
จากประวัติข้างต้น จะเห็นได้ว่าพระสมเด็จพิมพ์ฐานคู่ กรุบางขุนพรหม ไม่เพียงแต่เป็นพระเครื่องที่มีพุทธคุณสูงเท่านั้น แต่ยังมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานและเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์วงการพระเครื่องไทยที่สำคัญอีกด้วยครับ
